บทความพิเศษ
เรื่อง : พระครูวิเทศสุธรรมญาณ วิ. (สุธรรม สุธมฺโม) และคณะนักวิจัย DIRI
เรื่อง : พระครูวิเทศสุธรรมญาณ วิ. (สุธรรม สุธมฺโม) และคณะนักวิจัย DIRI

(ต่อจากฉบับที่แล้ว) ที่มีการเผยแผ่พระพุทธศาสนาตามเส้นทางค้าขายในยุค พุทธศตวรรษที่ ๑๑-๑๒
นั้น
ปรากฏมีโบราณวัตถุรวมทั้งศิลาจารึกคาถาทั้งภาษาบาลีและสันสกฤตปรากฏให้เห็น
เป็นหลักฐาน ค้นพบที่ อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม ประเทศไทย
และบางส่วนเก็บรักษาไว้ในพิพิธภัณฑ์ที่ประเทศอินโดนีเซีย มาเลเซีย เป็นต้น
(ดังที่ปรากฏ ในภาพ)
ซึ่งสะท้อนให้เห็นความรุ่งเรืองของพระพุทธศาสนาตลอดฝั่งทะเลอันดามันและอ่าว
ไทย

จารึกฐานรอง
พระธรรมจักร อักษรปัลลวะ ภาษาบาลี พุทธศตวรรษที่ ๑๒ พบที่ อ.กำแพงแสน
จ.นครปฐม สรุปคำแปลได้ว่า “ธรรมจักรนี้เป็นของพระพุทธเจ้า
ประกอบด้วยอริยสัจ ๔ เมื่อหมุนธรรมจักร ๓ รอบ จะเกิดอาการ ๑๒ ประการ
ของสัจจญาณ กิจจญาณ และกตญาณ”
ภาพ : ชะเอม แก้วคล้าย

คัมภีร์พระพุทธศาสนาทองคำ อักษรปัลลวะ พุทธศตวรรษที่ ๑๒ พิพิธภัณฑสถานอินโดนีเซีย
ที่มา http://dl.lontar-library.org/gdl.php?mod=browse&op=read&id=jkpklontar-ldl-img-63
ที่มา http://dl.lontar-library.org/gdl.php?mod=browse&op=read&id=jkpklontar-ldl-img-63

ศิลาสลักภาพเจดีย์สมัยปัลลวะและจารึกอักษรปัลลวะ รัฐเคดาห์ มาเลเซีย พุทธศตวรรษที่ ๑๒
ที่มา http://www.photodharma.net/Malaysia/Bujang-Valley-Museum/Bujang-Valley-Museum.htm
ผู้เขียนและคณะนักวิจัยของสถาบันดีรี (DIRI)
เพิ่งเดินทางกลับจากประเทศนอร์เวย์ และสหรัฐอเมริกา
สืบเนื่องจากการลงนามสัญญาความร่วมมือทางวิชาการ
ทั้งที่มหาวิทยาลัยออสโลและมหาวิทยาลัยวอชิงตัน
ซึ่งทั้งสองสถาบันเป็นแหล่งที่มี ข้อมูลปฐมภูมิ (Primary Source)
ของคัมภีร์พุทธโบราณอายุกว่า ๒,๐๐๐ ปี เป็นจำนวนมาก
ที่ค้นพบในเขตคันธาระและแถบเอเชียกลาง
ดังนั้นในฉบับนี้จึงขอนำเสนอเส้นทางการเผยแผ่พระพุทธศาสนาในเขตคันธาระและ
แถบเอเชียกลาง
ขอกล่าวย้อนกลับมาทางด้านตะวันตกเฉียงเหนือของชมพูทวีป ในช่วงพุทธศตวรรษ ที่ ๗ หลังการเผยแผ่พระพุทธศาสนาของ พระเจ้าอโศกมหาราชราว ๓๐๐ ปี พระเจ้ากนิษกะทรงเป็นผู้ปกครองอาณาจักรกุษาณะ และมี พระเดชานุภาพด้านการทหารและการปกครอง ทรงเป็นอัครพุทธศาสนูปถัมภกผู้ยิ่งใหญ่ และทรงเป็นผู้กำหนดการใช้มหาศักราชขึ้น พระราชอาณาจักรมีศูนย์กลางอยู่ที่แคว้นคันธาระ และ แผ่ขยายเข้าไปถึงเมืองทูรฟาน1 ในเขตแอ่งทาริมของเอเชียกลาง จนถึงเมืองปาฏลีบุตร ในตอนเหนือของชมพูทวีป ราชธานีของพระองค์คือเมืองเปชวาร์ในประเทศปากีสถานปัจจุบัน ทรงอุปถัมภ์ให้มีการสังคายนาพระไตรปิฎก ของนิกายสรวาสติวาท ซึ่งมีการบันทึกพระธรรมคำสอนเป็นลายลักษณ์อักษรในครั้งนี้ด้วย พระพุทธศาสนาจึงเผยแผ่ไปสู่เอเชียกลาง และจีนอย่างรวดเร็วตามเส้นทางการค้าขายทางบก ซึ่งต่อมาอีกหลายศตวรรษ พระพุทธศาสนาก็เผยแผ่ไปตามเส้นทางการค้าทางทะเล วรรณคดีพุทธศาสนาภาษาสันสกฤตเจริญรุ่งเรืองเป็นอย่างมากในยุคนี้ ในด้านพุทธศิลป์คันธาระก็มีความเจริญถึงขีดสุดในยุคของพระองค์เช่นกัน

ศิลาจารึก
มนต์ในพุทธศาสนามหายาน อักษรปัลลวะภาษาปรากฤต เกาะมัลดีฟ พุทธศตวรรษที่ ๑๒
(สันนิษฐานว่าเป็นศิลาฤกษ์ใช้ในการก่อสร้าง สถานที่สำคัญ)
ที่มาhttps://www.tamilnet.com/pic.html?path=/img/publish/2010/11 /Pallava_Grantha_inscription.jpg&width=893&height=366&caption=Earliest%20written%20record%20found%20in%20Landhoo,%20Maldives.%20It%20is%20a%20Mahayana%20Buddhist%20inscription%20in%20PallavaGrantha%20script,%20datable%20to%20ca.%205/6th%20century%20CE.%20%5BImage%20Courtesy:%20Inscriptions%20of%20Maldives%20-%20No%201%5D
ที่มาhttps://www.tamilnet.com/pic.html?path=/img/publish/2010/11 /Pallava_Grantha_inscription.jpg&width=893&height=366&caption=Earliest%20written%20record%20found%20in%20Landhoo,%20Maldives.%20It%20is%20a%20Mahayana%20Buddhist%20inscription%20in%20PallavaGrantha%20script,%20datable%20to%20ca.%205/6th%20century%20CE.%20%5BImage%20Courtesy:%20Inscriptions%20of%20Maldives%20-%20No%201%5D

เหรียญกษาปณ์ พระเจ้ากนิษกะ พ.ศ. ๖๒๑-๖๔๔ (127-151 A.D.) อาณาจักรกุษาณะ
ที่มา http://humshehri.org/history/kushan-dynasty/
ที่มา http://humshehri.org/history/kushan-dynasty/
หลักฐานโบราณคดีที่สำคัญของยุคนี้ คือ ผอบบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ
ขุดพบที่มหาสถูปพระเจ้ากนิษกะนอกกรุง เปชวาร์ ประเทศปากีสถาน
ฝาผอบเป็นรูปพระพุทธเจ้าประทับบนดอกบัวพร้อมเทวดา ๒ องค์
จารึกที่ผอบเป็นอักษรขโรษฐี มีใจความว่า “ทาสชื่ออคิสาเลาผู้ควบคุมงานที่วิหารกนิษกะในอารามของมหาเสนา” ปัจจุบันผอบเก็บรักษาไว้ที่ พิพิธภัณฑ์เปชวาร์ ส่วนพระบรมสารีริกธาตุนั้นรัฐบาลอังกฤษอัญเชิญไปประดิษฐานที่เมืองมัณฑะเลย์ ประเทศเมียนมาร์ เมื่อ พ.ศ. ๒๔๕๓

ผอบบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ พุทธศตวรรษที่ ๗
ที่มา http://www.thefridaytimes.com/beta3/tft/article.php?issue=20110715&page=16
ที่มา http://www.thefridaytimes.com/beta3/tft/article.php?issue=20110715&page=16

แคว้นคันธาระ เมืองเปชวาร์ แคว้นแบกเทรีย และบริเวณใกล้เคียง อันเป็นประตูเส้นทางการค้าขายโบราณไปสู่แอ่งทาริมและจีนทางตะวันออก
ที่มา http://pro.geo.univie.ac.at/projects/khm/showcases/showcase14
ที่มา http://pro.geo.univie.ac.at/projects/khm/showcases/showcase14
ร่องรอยอารยธรรมทางพระพุทธศาสนาได้รับการขุดค้นทางโบราณคดีในเมืองสำคัญ ๆ ของคันธาระและแบกเทรีย ได้แก่ เมืองบาช บามิยัน ฮัดดา ในอัฟกานิสถานปัจจุบัน และในแถบสวาด เมืองเปชวาร์ ตักสิลา ของปากีสถาน

ด้านข้างผอบดุน เป็นรูปกษัตริย์ในราชวงศ์กุษาณะ สองข้างเป็นเทพดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ในศาสนาของอิหร่าน
ที่มา http://tongiaovadantoc.com/c0/20110406120412445/chuong-iv-vua-kanishka-va-su-phat-trien-cua-phat-giao-dai-thua.htm
ที่มา http://tongiaovadantoc.com/c0/20110406120412445/chuong-iv-vua-kanishka-va-su-phat-trien-cua-phat-giao-dai-thua.htm

พระพุทธรูปศิลปะคันธาระ พุทธศตวรรษที่ ๖-๗
ที่มา http://www.nytimes.com/2007/03/23/arts/design/23fair.html?pagewanted=all&_r=0
ที่มา http://www.nytimes.com/2007/03/23/arts/design/23fair.html?pagewanted=all&_r=0

ภาพสลักพระนางสิริมหามายาทรงสุบิน ศิลปะคันธาระ พุทธศตวรรษที่ ๗
ที่มา http://bharatkalyan1.rssing.com/chan-6237423/all_p113.html
ที่มา http://bharatkalyan1.rssing.com/chan-6237423/all_p113.html

โบราณสถานเมืองฮัดดา2 อัฟกานิสถาน
ที่มา http://historypak.com/gandhara-civilization/
ที่มา http://historypak.com/gandhara-civilization/

ภาพสลักปฐมเทศนา พุทธศตวรรษที่ ๗ ได้จากการขุดค้นที่เมืองฮัดดา อัฟกานิสถาน
ที่มา http://www.flickriver.com/photos/28772513@N07/sets/72157633059219081/
ที่มา http://www.flickriver.com/photos/28772513@N07/sets/72157633059219081/

พุทธโบราณสถานตะปะอิโชโตเมืองฮัดดา อัฟกานิสถาน
ที่มา http://www.flickriver.com/photos/32357038@N08/sets/72157615188149612/
ในดินแดนที่ได้รับพระพุทธศาสนาไว้นี้ พระธรรมคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าถูกเก็บรักษาไว้ในรูปคัมภีร์โบราณ ซึ่งทำจากวัสดุในท้องถิ่น เช่น เปลือกไม้เบิร์ชและกระดาษ สำหรับอักษรที่ใช้ในการจารคัมภีร์ คือ อักษรขโรษฐี ภาษาที่ใช้ คือ ภาษาปรากฤตและภาษาท้องถิ่น เช่น ภาษาคานธารี คัมภีร์ที่ยังคงเหลือมาถึงปัจจุบันมักพบซุกซ่อนอยู่ในเขตโบราณสถานและตามถ้ำบนภูเขา นับเป็นเอกสารทางพระพุทธศาสนาที่จารึก พระธรรมคำสอนที่เก่าแก่ที่สุด ตัว
คัมภีร์เปราะบางและพร้อมที่จะสลายตัวเป็นฝุ่นผงเมื่อถูกจับต้อง
จึงต้องใช้กระบวนการพิเศษในการคลี่ม้วนคัมภีร์เพื่อการอ่านศึกษา
ซึ่งการเข้าถึงคัมภีร์โบราณเหล่านี้เปิดให้เฉพาะ
นักวิชาการที่มีหน้าที่เท่านั้น ปัจจุบันคัมภีร์ดังกล่าว
ส่วนใหญ่เก็บรักษาไว้ในสถาบันวิชาการระดับโลก เช่น ห้องสมุดแห่งชาติอังกฤษ3 สถาบันสเคอเยน4 ประเทศนอร์เวย์ เป็นต้น

พระพุทธรูปใหญ่ที่บามิยัน อัฟกานิสถาน ถูกทำลายโดยกลุ่มตอลิบาน (ฏอลิบาน)
ที่มา http://www.fravahr.org/spip.php?article540

คัมภีร์เปลือกไม้เบิร์ช อักษรขโรษฐี ภาษาคานธารี พุทธศตวรรษที่ ๖-๗
ที่มา http://jayarava.blogspot.com/2015/02/the-very-idea-of-buddhist-history.html
ที่มา http://jayarava.blogspot.com/2015/02/the-very-idea-of-buddhist-history.html

คัมภีร์มหายานสูตร พบที่บาจัวร์ ปากีสถานเปลือกไม้เบิร์ช อักษรขโรษฐี ภาษาคานธารี
นับ
ว่าเป็นบุญวาสนาของพวกเราชาวพุทธ และด้วยอานุภาพของพระรัตนตรัย
ที่ปัจจุบันนี้
ยังมีผู้อนุรักษ์เก็บรักษาและสนับสนุนให้คณะนักวิจัยของสถาบันดีรีมีโอกาสทำ
การศึกษาวิจัย อย่างจริงจัง จากข้อมูลปฐมภูมิเหล่านั้น ซึ่งเป็นคำสอนดั้งเดิม ทั้งนี้เพื่อทำความจริงให้ปรากฏ แก่ชาวโลก
http://www.kalyanamitra.org/th/uniboon_detail.php?page=3389
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น